6M คือ ส่วนประกอบที่สำคัญในกระบวนการฉีดพลาสติก

ผู้ที่จะเป็นช่างฉีดพลาสติกในโรงงานฉีดพลาสติกระดับอาชีพได้นั้นจะต้องหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลาทั้งทางด้านการปฏิบัติ (การควบคุมและใช้เครื่องฉีดพลาสติก) และแนวคิด (ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการฉีดพลาสติกต่าง ๆ และการสร้างสรรค์ทางความคิด) โดยเฉพาะแนวคิด หรือความคิดจะเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าบุคคลนั้นจะก้าวไปสู่ช่างฉีดมืออาชีพได้หรือไม่ เนื่องจากช่างฉีดมืออาชีพไม่จำเป็น ต้องใช้เครื่องฉีดพลาสติกได้ดีหรือใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ต้องรู้จักวิเคราะห์และแก้ปัญหางานฉีดพลาสติกให้ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนสามารถอธิบายถึงสาเหตุของปัญหาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นโรงงานพลาสติกเราจึงขอให้ช่างฉีดเข้าใจหลักการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของพลาสติกในกระบวนการฉีดให้ได้เสียก่อน

องค์ประกอบในการฉีดพลาสติก

ผู้เขียนเคยกล่าวว่า “จงปรับตั้งพารามิเตอร์ในการฉีดให้เหมาะสมเหมือนกับการดำเนินชีวิตด้วยความพอดี” คำกล่าวนี้โรงงานพลาสติกเราต้องการจะอธิบายถึงความเหมาะสมที่ควรเกิดกับพลาสติกในกระบวนการฉีด ซึ่งความเหมาะสมนั้น ควรมีองค์ประกอบหรือส่วนประกอบที่สำคัญในกระบวนการฉีดพลาสติก เพื่อให้ได้คุณภาพของชิ้นงานฉีดที่ดี อัตราการผลิตที่สูง และมีจำนวนของเสียน้อย องค์ประกอบที่สำคัญควรมีอยู่ 6 ส่วน (6M) ด้วยกัน คือ 1. Material (วัตถุดิบพลาสติก) 2. Mold (แม่พิมพ์ฉีดพลาสติก) 3. Machine (เครื่องฉีดพลาสติก) 4. Method (วิธีการหรือพารามิเตอร์ที่ปรับตั้ง การฉีด) 5. Man (ช่างฉีดหรือบุคลากร) 6. Management (การจัดการในการฉีดพลาสติก) และรายละเอียดของแต่ละ M เป็นดังนี้

1. วัตถุดิบพลาสติก (Material)

มีการเลือกชนิดและเกรดของพลาสติกได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ เช่น อ่างผสมปูน ถังปูน ควรใช้เม็ด HDPE เพราะใช้งานหนักควรจะมีความเหนียวทนทาน ตะกร้าลำไย ตะกร้ามังคุด เก้าอี้พลาสติก ถาดเพาะกล้า ควรใช้เม็ดพลาสติก PP ส่วนตะกร้าหูเหล็กก็ใช้ HDPE มีการเตรียมวัตถุดิบพลาสติกได้เหมาะสมหรือไม่ เช่น ต้องทำการอบไล่ความชื้นออกจากเม็ดพลาสติกหรือไม่ ถ้ามีต้องใช้เวลาและอุณหภูมิในการอบไล่ความชื้นอย่างไร สีที่ใช้สารเติมแต่งต่าง ๆ จำเป็นต้องมีหรือไม่ การผสมเม็ดพลาสติกกับสีและสารเติมแต่งควรทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด ไม่ควรมองที่ราคาของวัตถุดิบเป็นหลัก แต่ควรมองว่าจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่ประกอบด้วยอะไรบ้าง จึงจะเหมาะสมกับคุณภาพชิ้นงานฉีดที่ต้องการ สามารถผลิตชิ้นงานได้ปริมาณมาก ๆ โดยมีผลกระทบต่อการเกิดของเสียน้อยที่สุด และใช้พลังงานในการผลิตขั้นตอนต่าง ๆ น้อยที่สุด

2. แม่พิมพ์ฉีดพลาสติก (Mold)

มีการออกแบบอย่างเหมาะสมดีแล้วหรือยัง เช่น ลักษณะของแม่พิมพ์ต้องเป็นแบบ 2 แผ่น 3 แผ่น หรืออื่น ๆ จำนวนของคาวิตี้ (Cavity) ระบบการหล่อเย็นภายในแม่พิมพ์ ระบบคลายและปลดชิ้นงาน ตำแหน่งรอยประกบแม่พิมพ์ ขนาดของทางน้ำพลาสติกวิ่ง (Runner) และทางน้ำพลาสติกเข้า (Gate) ตำแหน่งของทางน้ำพลาสติกเข้า การระบายอากาศออกจากแม่พิมพ์ การเลือกใช้วัสดุโลหะที่ถูกต้องในการทำแม่พิมพ์ รวมถึงกระบวนการทางความร้อน (การชุบแข็ง) ที่ใช้ปรับปรุงคุณภาพของแม่พิมพ์ด้วย

3. เครื่องฉีดพลาสติก (Machine)

มีการเลือกขนาดของเครื่องฉีดพลาสติกได้ถูกต้องหรือไม่ เช่น ขนาดของแรงปิดแม่พิมพ์เพียงพอหรือไม่ ปริมาณเนื้อพลาสติกและแรงดันฉีดของเครื่องฉีดต้องเพียงพอต่อขนาดของชิ้นงานที่จะทำการฉีด ความเร็วในการทำงานของเครื่องฉีดสามารถทำ Cycle Time ได้ตามที่ต้องการ ความดันฉีด ความเร็วฉีด และความดันย้ำซึ่งมีอยู่หลายจังหวะให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะของชิ้นงานที่ทำการฉีด เครื่องฉีดมีประสิทธิภาพดีและมีความสม่ำเสมอในระหว่างการทำงาน อายุการใช้งานเหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมไม่แพงและทำได้ง่าย มีบริการหลังการขายดี สุดท้ายคือราคาเครื่องฉีดพลาสติกต้องเหมาะสมกับมูลค่าการผลิตสินค้านั้น ๆ

4. วิธีการหรือพารามิเตอร์ที่ปรับตั้งการฉีดพลาสติก (Method)

จะเป็นการรวม 3M คือ Material (วัตถุดิบ พลาสติก), Mold (แม่พิมพ์ฉีด), Machine (เครื่องฉีด) มาใช้ประโยชน์ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการสั่งการและควบคุมเครื่องฉีดให้ทำหน้าที่ดูแลจัดการกับวัสดุพลาสติกอย่างถูกต้องและเหมาะสมในการหลอมเหลว การไหลเข้าแม่พิมพ์ และการเย็นตัวในแม่พิมพ์ ตลอดจนดูแลจัดการให้แม่พิมพ์พร้อมที่จะรับพลาสติกเข้าแม่พิมพ์ ให้พักตัวอยู่ในแม่พิมพ์และปล่อยออกจากแม่พิมพ์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม (เมื่อพลาสติกเซ็ตตัวและเย็นตัวลงแล้ว) ซึ่งการสั่งการ การควบคุม การดูแลจัดการต่าง ๆ นี้จะต้องมีความเหมาะสมกันมากที่สุด เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพดีที่สุด

5. ช่างฉีดพลาสติกหรือบุคลากร (Man)

ผู้ที่จะปรับตั้งพารามิเตอร์ต่าง ๆ ในการฉีดได้เป็นอย่างดีนั้นจะต้องมีความรอบรู้เกี่ยวกับวัสดุพลาสติกแม่พิมพ์ และเครื่องฉีดที่จะใช้ในการผลิตชิ้นงานพลาสติกเป็นอย่างดีเสียก่อน โดยเริ่มตั้งแต่ชนิดของพลาสติก อุณหภูมิพลาสติกเหลว ความหนาแน่น ความดันที่ต้องใช้คุณสมบัติการไหลตัวของพลาสติกเหลว ลักษณะของทางน้ำพลาสติกวิ่ง (Runner) และทางน้ำพลาสติกเข้า (Gate) ระยะและขนาดของช่องทางการไหล ระบบการหล่อเย็น การปลดชิ้นงาน ฟังก์ชันและปุ่มควบคุมการทำงานของเครื่องฉีด ตลอดจนประสิทธิภาพของเครื่องฉีด เช่น ตั้งความดันของเครื่องเอาไว้ 120 บาร์ (ไฮดรอลิก) แต่เครื่องทำได้จริง 100 บาร์ เป็นต้น ดังนั้นจะต้องตรวจสอบการทำงานของเครื่องฉีดก่อนเสมอ อย่าเชื่อตัวเลขที่เราป้อนหรือตั้งที่ตัวเครื่องฉีด ต้องสังเกตดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับพลาสติกในระหว่างที่เครื่องฉีดทำงานอยู่ หรืออาจกล่าวได้ว่าผู้ปรับตั้งเครื่องฉีดต้อง รู้จักพารามิเตอร์ 5 ตัวหลัก ๆ ที่ต้องสั่งผ่านตัวเครื่องฉีดเพื่อควบคุมพลาสติก คือ อุณหภูมิ ความดัน ความเร็ว ระยะทาง และเวลา นอกจากนี้ยังต้องรู้จักลักษณะของปัญหาแบบต่าง ๆ สามารถวิเคราะห์เพื่อหาต้นเหตุของปัญหาได้มีแนวทางและเลือกแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม มีความรอบคอบ และผู้ปรับตั้งพารามิเตอร์ให้กับเครื่องฉีดจะต้องมีความสามารถด้านการคำนวณอยู่บ้างด้วย

6. การจัดการในการฉีดพลาสติก (Management)

หมายถึง การวางแผนการผลิตอย่างเหมาะสม เช่น การวางแผนในการฉีดตามลำดับของชนิดของพลาสติกเช่นพลาสติกใหม่ กับ พลาสติกรีไซเคิล ลักษณะและความเข้มของสี รูปร่างและขนาดของชิ้นงาน ลักษณะและขนาดของแม่พิมพ์ การสั่งซื้อ ความสำคัญของลูกค้า เป็นต้น เนื่องจากการวางแผนในการฉีดจะมีผลต่อการสูญเสียเป็นสำคัญ เพราะถ้าการวางแผนในการฉีดไม่เหมาะสม เช่น การฉีดชิ้นงานที่มีสีเข้มก่อนแล้วตามด้วย การฉีดชิ้นงานที่มีสีอ่อนหรือสีใส ย่อมเกิดการสูญเสียทั้งเวลาและวัสดุพลาสติกเป็นจำนวนมาก ตลอดจนอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสีของชิ้นงานผิดเพี้ยนไม่ตรงกับความต้องการ โดยจะมีสีเดิมซึ่งเข้มกว่าและล้างทำความสะอาดออกได้ยากติดออกมาอยู่เรื่อย ๆ

NCM (Nitrogen Control Module)

โซลูชั่นที่ช่วยควบคุมการฉีดก๊าซไนโตรเจน ในขบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นงาน สามารถควบคุมก๊าซได้อย่างสม่าเสมอ ช่วยให้โมลด์ สมบูรณ์แบบ และสามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตได้สูง
-ลดน้าหนักของโมลด์
-ลดเวลาในการทางาน
-ประหยัดเรซิน
-ปรับปรุงคุณภาพของชิ้นงาน
-อิสระในการออกแบบ

FCC6 (First Class Controller)

FCC 6 ระบบควบคุมแรงดัน ที่ออกแบบมาช่วยในกระบวนการ Gas Gas Assisted Injection Technology (GIT) เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมจาก BAUER ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่ายพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด ช่วยให้การประมวนผล มีความแม่นยาและสม่าเสมอสูงสุด พร้อมคุณสมบัติการเก็บข้อมูลการใช้งานและสามารถนามาวิเคราะห์ปรังปรุง ระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต OXYPURGE™ ระยะไกล และสัญญาณการแจ้งเตือนสถานะในกระบวกการที่นอกเหนือการควบคุมที่ตั้ง
ไว้ นอกจากนี้วาล์วปรับแรงดันสามารถปรับให้เพื่อลดการใช้ก๊าซ

-หน้าจอทัชสกรีนขนาด 10.4 นิ้ว
-หน่วยความจำภายในผ่าน USB, ETHERNET, LAPTOP
-ช่องรองรับการตรวจสอบปริมาณการใช้ก๊าซ
-มีให้เลือกการใช้งาน3 ออฟชั่น
-รองรับเครื่อง IMM ได้สองเครื่องพร้อมกันโดยการกาหนดวาล์ว

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top